วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

บุญแจกข้าว,ทำบุญเพื่ออะไร...


การทำบุญในที่นี้คงไม่ได้หมายถึงเฉพาะการทำบุญแจกข้าวหาผู้ตายเท่านั้น  หากแต่รวมถึงการหยาดน้ำ  การทำสังฆทาน  การตักบาตร  และการให้ทานลักษณะอื่น ๆ

1.       การทำบุญก็เพื่ออุทิศส่วนกุศล  ไปให้ดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ  ซึ่งก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่ามีจริงหรือไม่  ถ้ามี มีลักษณะอย่างไร  อยู่ไหน  อยู่อย่างไร  ถ้าลูกหลานญาติมิตรส่งไทยทานไปให้ทั้งผ่านคนกลางทั้งพระสงฆ์  หรือหมอทรง  หมอธรรมดวงวิญญาณได้รับอย่างไร  เท่าไร  หรือไม่ เมื่อได้รับแล้วเอาไปทำอะไรอย่างไรการทำบุญให้ผู้ตาย  เป็นการให้แบบทางเดียวด้วย  หวังว่าดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับจะได้รับ  นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการมีการอยู่  ไม่วาอยู่ไหน  ภาพไหนเมื่อไรก็ตาม  เป็นการรักษารอยต่อหรือความสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่กับผู้ไปลองคิดดูว่าอะไร จะเกิด  ถ้าหากไม่มีร่องรอยหรือกิจกรรมใด ๆ  ระหว่างผู้อยู่กับผู้จากไป  ขนาดมีการนำเอาอิฐิของผู้ตายบรรจุไว้ในธาตุ  พร้อมจากชื่อผู้ตายพร้อม  วันเดือนปีเกิด  ปีตาย          ไว้แท้ ๆ  ลูกหลานและญาติมิตรก็ยังปล่อยทิ้งก็มี  ถึงปีถึงเดือนไม่ต้องถามถึงวันครบรอบปีเกิดปีตาย  ก็ไม่มีความหมาย  ปล่อยธาตุแม่ให้อยู่อย่างเศร้าหมอง  ส่วนธาตุพ่อธาตุแม่ของคนอื่นๆ  เขามีการสรงน้ำ  ทอดมาติกาบังสุกุลในเทศกาลสำคัญ

2.   การทำบุญให้ดวงวิญญาณเป็นการเตือนผู้อาศัยให้รู้จักการให้  มีใจโอบอ้อมอารี  ไม่มักได้อย่างเดียวต้องรู้จักให้ ให้โดยที่ไม่หวังอะไรตอบ นั้นคือการให้ที่อมตะ  เป็นนิรันดร์  เป็นการให้ที่บริสุทธิ์สะอาด  ปราศจากอคติใดๆ

 3.   ทำบุญเพื่อส่งปัจจัยไทยทานให้ดวงวิญญาณผู้ล่วงลับได้นำไปใช้ในการไปเกิดใน ภาพต่อไป  ซึ่งเหตุผลในส่วนนี้สิบคนก็สิบอย่าง  บ้างก็ว่าการไปเกิดเป็นเรื่องของความดี  ของแต่ละคนที่ทำเอาไว้ขณะมีชีวิต  ทำดีไว้ก็กลายเป็นปัจจัยเกื้อหนุน  ส่งผลให้วิญญาณของผู้ตายได้ไปเกิดในภพหน้า  หรือภพต่อๆ ไป ทำอะไรไว้ถ้าเป็นสิ่งดีงามก็ยิ่งดี  มีกุศลมีพลังเกิดหนุนให้ไปสู่สุขคติที่ ๆ มีแต่ความสงบสุข  ปราศจากเพทภัยอันตรายใด ๆ ก็ว่าไปบางคนก็อาจคิดแค่เพียงว่า  กรรมดีกรรมชั่วอยู่กับคนอยู่แล้ว  เมื่อตายไป  กรรมดีกรรมชั่วก็ตามไปอยู่กับวิญญาณ  การที่ผู้อยู่เบื้องหลังส่งไปให้ก็เป็นการแสดงถึงการมีน้ำใจ  ส่วนบุญกุศลจริง ๆ ผู้เป็นเจ้าของดวงวิญญาณจะต้องสร้างหาเอง  ผลบุญกุศลจะตามเจ้าของไปทุกหนทุกแห่ง

2 ความคิดเห็น: